เด็กเตรียมตัวเข้าเรียน ในช่วงวัย 3-7 ขวบ

เด็กเตรียมตัวเข้าเรียน โรงเรียนสำหรับเด็กประถมเด็กเล็กเยาว์วัย ที่กำลังจะก้าวเข้ามาเริ่มเรียนทางผู้ปกครองของเด็กในแต่ละวัย มักจะเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าเรียนของลูกหลานและวัยเด็ก ที่สามารถจะเริ่มต้นฝากเลี้ยงหรือว่านำมาเข้าโรงเรียนก็คงจะเป็นใน ช่วงวัย 3-7 ขวบ ช่วงวัย 3 ขวบจะเป็นช่วงของ เด็กเล็ก ที่กำลังฝึกพัฒนาการ ซึ่งการที่ผู้ปกครองจะนำเด็กวัยนี้มาฝากเลี้ยงจะเป็นการเริ่มก้าวเข้าสู่การเรียนรู้ในรูปแบบชั้นเรียนมากขึ้น พัฒนาการของเด็กวัย 3 ขวบ จะเป็นการสังเกตการพูดการจดจำและซุกซน ถือว่าเด็กวัยนี้เป็นเด็กวัยที่กำลังมีการเรียนรู้และฝึกฝนพัฒนาในเรื่องของสมองและศักยภาพเพิ่มขึ้น เด็กวัยนี้เหมาะสำหรับการปลดปล่อยและให้เขาได้เรียนรู้แบบธรรมชาติด้วยตนเองไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ในห้องเรียนหรืออยู่ที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่ของเด็กในวัย 3 ขวบ ถึงแม้ว่าเด็กในวัยนี้จะยังโตไม่มากจะต้องมีผู้ปกครองคอยดูแลอยู่สม่ำเสมอแต่การที่จะให้เด็กวัยนี้ได้คลุกคลีหรือว่าเล่นอยู่กับธรรมชาติจะเป็นสิ่งที่ดีและผ่อนคลายความเครียดในวัยเด็ก รวมไปถึงจะช่วยทำให้เด็กในวัยนี้มี การเติบโต ที่สมบูรณ์และเก่งขึ้นกว่าเดิมส่วนในเด็กประมาณ 6-7 ขวบ เป็นช่วงที่กำลังก้าวสู่ในวัยประถมชั้นที่ 1 ซึ่งเด็กในวัยนี้สามารถที่จะเรียนรู้และดูแลตัวเองได้แล้วอีกหนึ่งขั้น สำหรับผู้ปกครองบางคนก็ยังคงห่วงใยลูกหลานและยังคงเฝ้าติดตามอยู่สม่ำเสมอเด็กวัยประมาณนี้ไม่ต้องมีกังวลในเรื่องของ เด็กประถม ที่กำลังจะก้าวเข้าไปสู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และเป็นวัยที่เติบโตสามารถที่จะรู้ว่าอันไหนสมควรทำหรืออันไหนไม่สมควรทำ ซึ่งแตกต่างจากเด็กวัย 3 ขวบที่ก็ยังคงจะต้องเริ่มแรกของการเรียนรู้อยู่ ดังนั้นผู้ปกครองทุกคนหากจะส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนก็เตรียมความพร้อมในเรื่องของโรงเรียนหรือในเรื่องของการสอนบุตรหลานของท่าน แน่นอนว่าเด็กวัย 3 ขวบขึ้นไป หากไม่เห็นหน้าคุณพ่อคุณแม่ก็จะต้องร้องไห้อยู่แล้วเป็นธรรมดา ดังนั้นก็ควรจะทำให้เด็ก ๆ เหล่านี้ชินกับการที่จะต้องเข้าสู่โลกกว้างโดยที่ไม่มีคุณพ่อคุณแม่ต้องมาคอยดูแลในแต่ละวันได้แล้ว เพื่อที่จะได้เติบโตและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น เป็นการทำให้ลูกของคณได้เติบโตไปได้ด้วยตนเอง และเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในการใช้ชีวิตมากขึ้นด้วยตนเอง ถือว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ดีที่สุดและอยู่ในโลกนี้ได้ง่ายมากขึ้นในชีวิตของการเติบโต พาส่อง โรงเรียนนานาชาติในกรุงเทพ […]
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพที่เหมาะกับ คุณแม่ทุกวัย และ ลูกน้อย

เป็นปกติอยู่แล้วที่ คุณแม่ทุกวัย ส่วนใหญ่ มักจะพาลูกน้อยของท่านไปตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อดูพัฒนาการ และยังรวมไปถึงสุขภาพของคุณแม่ที่จะต้องหมั่นตรวจดูเพื่อที่จะได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และร่างกายที่แข็งแรงและจะดูแลลูกน้อยของท่านไปอย่างยาวนานอีก 1 สิ่ง ที่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการที่เลือกโรงพยาบาลสำหรับตรวจสุขภาพของทั้งคุณแม่และลูก ซึ่งโรงพยาบาลที่เหมาะสมที่ควรจะไปก็ควรจะเป็นไปโรงพยาบาลที่คุณแม่เคยไปคลอด หรือจะเป็นโรงพยาบาลเกี่ยวกับแม่และเด็กที่ให้คำปรึกษาในเรื่องต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญ คุณแม่มือใหม่ หรือใครก็ตาม ก็สามารถที่จะไปใช้บริการได้เป็นการตรวจสุขภาพที่เหมาะสำหรับทุกคน เรื่องสุขภาพนั้นแน่นอนอยู่แล้วว่าเป็นสิ่งสำคัญทุกคนต่างก็ไม่รู้ว่าสุขภาพของตัวเองจะดีหรือไม่ดีอย่างไร การที่ได้เข้ารับการตรวจสุขภาพประจำปีในแต่ละครั้งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีและรู้เรื่องโรคภัยไข้เจ็บก่อนจะดีที่สุด เพื่อที่จะได้ตั้งรับและป้องกันได้เป็นอย่างดีจากการที่ไปตรวจที่โรงพยาบาล ซึ่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ในปัจจุบันนี้ก็มีอยู่หลากหลายแห่งและเข้าใช้บริการได้แบบเต็มที่ มีบริการที่ดีคุณหมอให้คำปรึกษาแก่คนไข้คุณแม่และลูกน้อยได้เป็นอย่างดีเพื่อที่จะเตรียมตัวในการใช้ชีวิตในแต่ละวันแบบมีความสุข ในเรื่องสุขภาพนั้นหากคุณแม่และลูกน้อยของคุณทานอาหารครบ 5 หมู่พักผ่อนให้เพียงพอทุกสิ่งทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหาตามหลักสุขภาพแล้วการที่ได้พักผ่อนและได้กินอาหารที่ดี ๆ มีประโยชน์ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับทุกคน และสำหรับใครที่รู้สึกว่าร่างกายขาดสารอาหารหรือขาดวิตามินก็สามารถที่จะไปหาทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ได้ ในส่วนของการทานอาหารก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะต้องคำนึงถึง เพราะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถทำให้สุขภาพภายในของเราเสริมสร้างแคลเซียมเสริมสร้างวิตามินต่าง ๆ ที่ขาดหายไปให้กลับมาสมบูรณ์แข็งแรง การที่จะมีสุขภาพที่ดีได้นั้นไม่ว่าจะเป็นเด็กอายุเท่าไหร่ก็ตามทั้งภายในและภายนอกจะต้องมีความสมบูรณ์กันการดูแลสุขภาพจะต้องดูแลทั้งภายนอกและภายใน เพื่อที่จะได้มีศักยภาพและการพัฒนาที่ดีต่อไปเรื่อย ๆ หรือคุณแม่วัย 40 กว่าขึ้นไปการดูแลสุขภาพก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องคำนึงถึง รวมไปถึงยังต้องทานอาหารและน้ำเปล่าที่มีประโยชน์ในเรื่องของน้ำเปล่านั้นแน่นอนว่าดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับท่านใดที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพสามารถที่จะเข้าปรึกษากับอนามัยใกล้บ้านหรือโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบลได้เช่นกัน เพื่อที่จะได้รู้ก่อนว่าควรจะต้องเตรียมตัวอย่างไร สำหรับการดูแลสุขภาพในครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามทั้งคุณแม่และเด็กน้อยที่ไหนก็ตามต่างก็ต้องมีสุขภาพที่ดี อ่านบทความเพิ่มเติมhttps://notjustaworkingmom.com/คลินิกคุณแม่/ เครดิตภาพhttps://google.com/
คุณแม่มือใหม่ ต้องหมั่นตรวจสุขภาพและดูแล ลูกน้อย ให้ดี

สำหรับการตรวจสุขภาพหลังคลอดหรือตรวจสุขภาพประจำปีของ ลูกน้อย ที่ คุณแม่มือใหม่ จะต้องทำเป็นกิจวัตรประจำวัน และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอยู่แล้วนั้น จะต้องหมั่นตรวจสุขภาพให้ดีเพื่อที่จะได้เรียนรู้พัฒนาการการเติบโตในส่วนต่าง ๆ ของลูกน้อย ที่คุณแม่ก็คงอยากจะเห็นในส่วนนี้กันเป็นอย่างมาก ในการตรวจสุขภาพและดูแลสุขภาพของ เด็กแรกเกิด หรือว่าลูกน้อยของคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายมักจะเห่อลูกเป็นพิเศษและมักจะดูแลลูกของท่านแบบใกล้ชิด โดยการที่ประคบประหงมไม่ให้มดไต่ไรตอม ซึ่งในส่วนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่ถือว่าดี แต่อีกมุมนึงหากให้ลูกน้อยของท่านวัยกำลังซนหรือกำลังเรียนรู้ได้เรียนรู้ในสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเองจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ถึงแม้ว่าในเรื่องของการตรวจสุขภาพก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กที่จะต้องหมั่นตรวจสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของภูมิคุ้มกันในส่วนของร่างกายการเจริญเติบโตความสูงและน้ำหนัก นอกจากนี้ยังต้องหมั่นดูแลลูกของท่านด้วยการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่และยังต้องกินผักผลไม้นมเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้เจริญเติบโตและไม่ขาดสารอาหาร ประโยชน์เหล่านี้จะดีแก่ตัวของลูกของท่านมากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่มีลูกวัยกำลังเติบโตและกำลังเรียนรู้ไปกับโลกใหม่ ก็สามารถที่จะลองให้ลูกของท่านกินอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพื่อที่จะได้ไปช่วยสร้างในส่วนของแร่ธาตุวิตามินที่จะสามารถทำให้ร่างกายของลูกน้อยของคุณมีภูมิคุ้มกันและภูมิต้านทานโรคมากขึ้น โอกาสและความเสี่ยงในการเกิดโรคภัยไข้เจ็บหรือภูมิแพ้ก็จะมีน้อยลง เด็กทารก กับเด็กโตที่มีวิวัฒนาการของการเติบโตที่ไม่เหมือนกันดังนั้นในเรื่องสุขภาพของเด็ก ๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญ และคุณพ่อคุณแม่ทุกคนก็คงจะทราบกันดีว่าหากลูกของท่านมีการเจริญเติบโตขึ้นมาโดยมีภูมิคุ้มกันที่ดีก็จะทำให้ลูกของท่านเติบโตและแข็งแรงขึ้นในทุก ๆ วัน และหากมองในอีกมุมนึงการที่ภูมิคุ้มกันถูกสร้างขึ้นมาจากการที่เจ็บไข้ได้ป่วยของเด็กน้อย ย่อมเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่จะเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้ก็ไม่ต้องกังวลใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นปกติของเด็กที่จะต้องมีการเจริญเติบโต มีการสูงขึ้นน้ำหนักเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมไปตามวัย คุณแม่ทุกคนก็คงไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้เลยจะเพิ่มภูมิคุ้มกันและประสบการณ์ให้กับตัวของลูกของท่านได้เป็นอย่างดี และจะทำให้เด็ก ๆเติบโตมาแบบมีคุณภาพและมีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงมากขึ้นตามวัย อ่านบทความเพิ่มเติมhttps://notjustaworkingmom.com/คลินิกคุณแม่/ เครดิตภาพhttps://google.com/
เปิด เทคนิคดูแลคุณแม่ขณะตั้งครรภ์ ให้มีสุขภาพดีทั้งแม่และลูกในครรภ์

ในปัจจุบันนี้มีคนท้องหลายท่านที่ชอบมีภาวการณ์คลอดก่อนกำหนดหรือยุติการตั้งครรภ์ เช่น การตั้งครรภ์นอกมดลูก คุณแม่บางคนก็มีการดูแลตัวเองดีก็จะทำให้การตั้งครรภ์สมบูรณ์ วันนี้เราจะมาเปิด เทคนิคดูแลคุณแม่ขณะตั้งครรภ์ ซึ่งอันดับแรกเลยก็คือการดูแลตัวเองให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ทั้งร่างกายและจิตใจ การดูแลตัวเองเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจมาก ๆ เพื่อจะทำให้ลูกคลอดออกมาสมบูรณ์และแข็งแรง หากคุณแม่คนไหนที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ลองทำตามเทคนิคเหล่านี้ดู จะทำให้ลูกในครรภ์และตัวคุณแม่เองสุขภาพดีอย่างแน่นอน เทคนิคดูแลคุณแม่ขณะตั้งครรภ์ ที่สำคัญอันดับต้น ๆเลยก็คือ การเลือกอาหารการกินสำหรับคุณแม่มือใหม่ ถือเป็น วิธี การดูแลสุขภาพ ระหว่าง ตั้ง ครรภ์ ที่สำคัญมากจริง ๆ คุณแม่ตั้งครรภ์จะต้องได้รับสารอาหารให้ครบ 5 หมู่ และมีการพักผ่อนให้เพียงพอให้ทารกในครรภ์มีน้ำหนักที่พอดี และมีการเติบโตอย่างสมบูรณ์ โดยสารอาหารที่คุณแม่ควรได้รับ ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ใยอาหาร แคลเซียม เป็นต้น การดูแลตั้งครรภ์ระยะแรก คุณแม่จะต้องมีจิตใจให้ผ่องใส ไม่เครียดและวิตกจนเกินไป การคิดมากแล้วเครียดเกินไปถือเป็น ข้อห้ามคนท้อง 1 – 3 เดือน เพราะการเครียดจะส่งผลต่อทารกในครรภ์ได้ เมื่อคุณแม่มีการเครียดจะทำให้สารเคมีในร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงทันที จะทำให้คุณแม่มีการอ่อนเพลีย ไม่มีแรง นอนไม่หลับแล้วคลื่นไส้ได้ ซึ่งอาการเหล่านี้จะทำให้คลอดก่อนกำหนดได้และมีความเสี่ยงเป็นออทิสติกหรือมีการบกพร่องทางกายได้ เทคนิคดูแลคุณแม่ขณะตั้งครรภ์ ข้อต่อมาคือ […]
เคล็ดลับคนอยากได้ลูกแฝด ทั้งวิธีธรรมชาติและพึ่งฝีมือหมอ

ครอบครัวไหนที่อยากมีลูกน้อยสัก 2 คน หรือว่าอยากจะมีลูกแฝดไปเลย ท้องครั้งเดียว คลอดครั้งเดียว ก็มีลูกน่ารักๆถึง 2 คน แต่การจะทำลูกแฝดนั้นต้องอาศัยปัจจัยหลายๆอย่าง มาดู เคล็ดลับคนอยากได้ลูกแฝด ทั้งวิธีธรรมชาติและเทคโนโลยีทางการแพทย์กันค่ะ ครรภ์แฝดมี 2 แบบคือ | เคล็ดลับคนอยากได้ลูกแฝด แฝดแท้ (Identical twins) หน้าตาลักษณะจะเหมือนกันทุกอย่าง เหมือน copy paste ออกมาเลย พบได้น้อยมากเพียง 30% ของการตั้งครรภ์แฝดทั้งหมด แฝดเทียม (Fraternal twins) หน้าตาอาจจะเหมือนหรือไม่เหมือนกันก็ได้ บางครั้งดูเหมือนเป็นพี่น้องที่คลานตามกันมา พบได้ใน 70% ของการตั้งครรภ์แฝดทั้งหมด วิธีทำลูกแฝดแบบธรรมชาติ สำหรับเคล็ดลับคนอยากได้ลูกแฝดที่มีงบประมาณที่จำกัด ลองใช้วิธีธรรมชาติดูนะคะ เพราะโอกาสในการตั้งครรภ์แฝด 2 พบได้ในอัตรา 1 ต่อ 89 รายเลยทีเดียว 1. ทานอาหารที่มีแคลเซียม จากผลการวิจัยของแพทย์ที่นิวยอร์กพบว่า ผู้หญิงที่ดื่มนมมากกว่าปกติ 5 เท่ามีโอกาสได้ลูกแฝดมากกว่าผู้หญิงที่กินมังสวิรัติ หรือไม่บริโภคอาหารประเภทเนื้อเลย โปรตีนที่พบในตับของสัตว์เป็นปัจจัยหลักของการมีลูกแฝด […]
แนะนำ วัคซีนพื้นฐานตั้งแต่แรกเกิด ถึง 12 ปี ที่ลูกควรได้รับ

โดยปกติแล้วเด็กๆควรได้รับ วัคซีนพื้นฐานตั้งแต่แรกเกิด จนถึงอายุ 12 ปี ตามตารางวัคซีนของสมาคมโรคติดเชื้อในเด็ก ซึ่งจะแบ่งออกตามวัยของเด็ก การได้รับวัคซีนเด็กจะร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย กระตุ้นภูมิต้านทาน สร้างเกราะป้องกันโรคต่างๆ พร้อมเติบโตและมีพัฒนาการอย่างสมวัย วัคซีนพื้นฐานตั้งแต่แรกเกิด ที่เด็กทุกคนควรจะได้รับ ได้แก่ • วัคซีนป้องกันวัณโรค ถือเป็นวัคซีนทารกแรกเกิดเลยก็ว่าได้ เพราะโรงพยาบาลจะฉีดให้กับทารกก่อนกลับบ้านเลย • วัคซีนตับอักเสบบี อีกหนึ่งวัคซีนทารกแรกเกิดที่จะต้องได้รับทั้งหมด 3 เข็ม เข็มแรกจะฉีดครั้งแรกตอนหลังคลอด เข็มที่ 2 ฉีดเมื่ออายุครบ 1 เดือน และเข็มสุดท้ายฉีดเมื่อมีอายุครบ 6 เดือน • วัคซีนคอตีบ, บาดทะยัก, ไอกรน ฉีดชุดแรก 3 ครั้ง เข็มแรกตอนอายุ 2 เดือน, 4 เดือน และ 6 เดือนตามลำดับ หลังจากนั้นจะฉีดเพื่อกระตุ้นการทำงานของวัคซีนอีกครั้งในอายุ 1 ปี 6 เดือน, 4-6 ปีและ […]
ทำความรู้จักการ ฝากไข่ ทางเลือกของคนอยากมีลูก แต่ยังไม่พร้อม

เมื่อผู้หญิงมีอายุมากขึ้น โอกาสในการตั้งครรภ์ก็จะลดลง และมีโอกาสแท้งได้ เทคโนโลยีการเก็บรักษาไข่ด้วยวิธีการแช่แข็ง จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้หญิงที่ยังไม่พร้อมมีบุตรในขณะนี้การ ฝากไข่ หรือแช่แข็งไข่ จึงเป็นทางเลือกที่จะช่วยให้คู่สามีภรรยาสามารถวางแผนการมีบุตรในอนาคตได้ การ ฝากไข่ คืออะไร การ ฝากไข่ คือการเก็บรักษาไข่ที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์และมีสภาพดี มาแช่แข็งโดยการใช้ไนโตรเจนเหลวที่มีอุณหภูมิประมาณ -195 องศาเซลเซียส ทำให้เซลล์ทุกเซลล์หยุดการทำงานอย่างรวดเร็ว จะทำให้ไข่รักษาประสิทธิภาพในการทำงานของเซลล์ไว้ได้ เมื่อถึงเวลาพร้อมก็สามารถนำไข่ที่แช่แข็งออกมาละลายแล้วนำไปปฏิสนธิกับอสุจิในห้องปฏิบัติการต่อไป ซึ่งการฝากไข่จะอยู่ในการดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ วิธีฝากไข่ เตรียมตัวอย่างไรบ้าง 1. เข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาการฝากไข่ แพทย์จะซักประวัติทั่วไป ทั้งประวัติสุขภาพ โรคประจำตัว ระดับฮอร์โมนในเลือด อาจจะมีการตรวจคัดกรองโรคด้วย 2. การเพิ่มปริมาณตกไข่ เพื่อให้ได้เซลล์ไข่ที่มากพอ แพทย์จะฉีดฮอร์โมนเพื่อเพิ่มปริมาณการตกไข่ให้ได้มากกว่า 1 ใบ เพิ่มโอกาสความสำเร็จในการฝากไข่ ขั้นตอนนี้อาจจะต้องทำต่อเนื่องประมาณ 3 สัปดาห์ 3. พบแพทย์ตามนัด ใน 3 สัปดาห์ที่มีการกระตุ้นรังไข่นี้ แพทย์จะมีการเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อเช็คการตอบสนองต่อยากระตุ้นรังไข่ ปกติแล้วเมื่อเซลล์ไข่ถูกผลิตขึ้นจะมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงขึ้น และฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะต่ำลงและคงที่ไปเรื่อยๆจนถึงวันไข่ตก แพทย์จะติดตามด้วยการอัลตร้าซาวด์เพื่อเช็คการเจริญเติบโตของฟองไข่ด้วย 4. ขั้นตอนการเก็บไข่ แพทย์จะให้ยาสลบระยะสั้น และยาแก้ปวดก่อนเริ่มทำการเก็บไข่ จากนั้นจะอัลตร้าซาวด์ฉายภาพรังไข่เพื่อหาตำแหน่งของไข่ตก ก่อนจะใช้เข็มดูดไข่ออกมาทางช่องคลอด […]
เคล็ด(ไม่)ลับ สำหรับการ เลือกเพศลูก แบบธรรมชาติ

ปัจจุบันการกำหนดเพศของลูกยังเป็นความต้องการของคุณพ่อคุณแม่หลายๆท่าน เนื่องด้วยอยากมีลูกไว้สืบสกุล หรืออาจจะมีลูกเพศใดเพศหนึ่งแล้วก็อยากได้ลูกเพศตรงข้ามด้วย แต่การพึ่งเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์นั้นก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับในการ เลือกเพศลูก ด้วยวิธีธรรมชาติมาฝากกัน เพศของลูกเกิดจากอะไร | เลือกเพศลูก เพศเกิดจากสารพันธุกรรมที่เรียกว่าโครโมโซม ซึ่งสัญลักษณ์ของโครโมโซมเพศหญิงจะเป็น XX ส่วนของเพศชายจะเป็น XY การให้กำเนิดทารกเกิดจากการปฏิสนธิระหว่างตัวอสุจิของฝ่ายชายกับไข่ของฝ่ายหญิง ของฝ่ายชายจะมีโครโมโซมเพศ 2 ชนิดคือ X และ Y ส่วนไข่ของฝ่ายหญิงจะมีโครโมโซมอยู่ชนิดเดียวคือ X หากตัวอสุจิที่มีโครโมโซม X เข้าไปผสมกับไข่โครโมโซม X ก็จะได้เป็น XX ทารกที่ได้จะเป็นเพศหญิง แต่ถ้าหากตัวอสุจิโครโมโซม Y เข้าไปผสมกับไข่โครโมโซม X ก็จะได้เป็น XY คือเพศชาย ตัวอสุจิมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน ตัวอสุจิ X ตัวใหญ่ หัวโต เคลื่อนไหวช้ากว่า Y แต่อึดมากๆ จุดเด่นคือตายยาก ทนสภาพกรดได้ดี ตัวอสุจิ Y ผอมเพรียว เคลื่อนไหวได้เร็ว แต่จะไม่ค่อยทนกับสภาวะที่เป็นกรด ชอบความเป็นด่างมากกว่า ด้วยคุณสมบัติที่แตกต่างกันจึงทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถหาวิธีเลือกเพศลูกได้ด้วยการแยกตัวอสุจิ […]
7 อันดับ สถานที่คลอดลูก ในกรุงเทพ ที่แพงที่สุด

กว่าจะได้เห็นหน้าลูกน้อย คุณแม่ต้องอุ้มท้องนานถึง 9 เดือน เพราะฉะนั้นในวันที่ลูกกำลังออกมาลืมตาดูโลก คุณพ่อคุณแม่ก็อยากจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อต้อนรับลูกน้อย นอกจากการดูแลตัวเองตอนตั้งท้องแล้ว คุณแม่จะต้องศึกษาหาข้อมูลเรื่องของใช้ของลูก หรือแม้กระทั่ง สถานที่คลอดลูก ว่าที่ไหนมีสิ่งอำนวยความสะดวก การดูแลของแพทย์เป็นอย่างไร คลอดลูกที่ไหนดีที่จะช่วยให้คุณแม่มั่นใจ คลายความกังวลลงไปได้ วันนี้เราได้รวบรวมแพคเกจค่าคลอดจากโรงพยาบาลดังๆในกรุงเทพฯมาฝากค่ะ การเลือก สถานที่คลอดลูก ควรคำนึงถึงสภาพแวดล้อม บุคลากรทางการแพทย์ สิ่งอำนวยความสะดวกในระหว่างที่คุณแม่เตรียมตัวคลอด ข้อมูลค่าใช้จ่าย ค่าคลอดลูกราคาเท่าไหร่ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณแม่ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น 1. โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่คลอดลูกที่มีชื่อเสียงในการทำคลอดลูกดารามามากมายเลย แพคเกจให้บริการคลอดแบบเหมาจ่าย ครอบคลุมทุกค่าใช้จ่ายทั้งของคุณแม่และลูกน้อย พร้อมสิทธิ์ประโยชน์อีกเพียบ แพคเกจการคลอดปกติ ราคาเหมาจ่ายอยู่ที่ 99,000 บาท ราคานี้เป็นบริการคลอดแบบเหมาจ่าย มีห้องพักเดี่ยวหลังคลอดเป็นเวลา 2 คืน แพคเกจการผ่าตัดคลอด ราคาเหมาจ่ายอยู่ที่ 129,000 บาท มีห้องพักเดี่ยวเป็นเวลา 3 คืน ส่วนราคาการผ่าตัดคลอดครรภ์แฝดจะอยู่ที่ 199,000 บาท 2. โรงพยาบาล BNH เป็นอีกหนึ่งสถานที่คลอดลูกที่ครบวงจรจริงๆ ให้บริการตั้งแต่ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ การฝากครรภ์ คลอดบุตร และการดูแลหลังคลอด […]
เก็บกระเป๋า ของใช้เตรียมคลอด ที่ขาดไม่ได้ คุณแม่มือใหม่ต้องรู้

เมื่อเข้าสู่ช่วงไตรมาส 3 คุณแม่ตั้งครรภ์หลายๆท่านก็คงจะเป็นกังวลกับการเตรียมตัวคลอดลูกไม่น้อยเลย ยิ่งในเรื่องของการจัด ของใช้เตรียมคลอด หากเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ก็อาจจะยังไม่รู้ว่าต้องเตรียมอะไรไปบ้าง ทั้งของใช้สำหรับลูกน้อย ของใช้ส่วนตัวของคุณแม่ และเอกสารสำคัญที่จะต้องนำไปโรงพยาบาลด้วย เรามาดูกันเลยว่าควรจะต้องเตรียมอะไรไปบ้าง ของใช้หลังคลอดสำหรับลูกน้อย ในส่วนของ ของใช้เตรียมคลอด นั้นควรจะเตรียมไว้ล่วงหน้าสัก 2 สัปดาห์ เมื่อถึงกำหนดคลอดจะได้ไม่ต้องเป็นกังวล หรือหากมีอาการเจ็บท้องกะทันหันจะได้ไปโรงพยาบาลได้ทันที กระเป๋าสำหรับใส่ของใช้เตรียมคลอดควรจะมีอย่างน้อย 2 ใบ เพื่อแยกของสำหรับลูกน้อยและของคุณแม่ เวลาหยิบใช้จะได้สะดวก โดยของใช้สำหรับลูกน้อยที่ต้องเตรียมหลักๆคือ 1. ผ้าอ้อม ผ้าอเนกประสงค์ใช้สำหรับทำความสะอาดทารกน้อย หรือใช้ห่อตัว เพราะฉะนั้นควรเลือกผ้าที่มีความนุ่ม เมื่อสัมผัสกับผิวทารกแล้วจะไม่เกิดการระคายเคือง 2. เสื้อผ้า ถุงมือ ถุงเท้า หมวก ทำความสะอาดทุกชิ้นด้วยน้ำยาซักผ้าสำหรับเด็กอ่อน เพราะจะทำให้ไม่ระคายเคืองกับผิว ควรเลือกเสื้อผ้าที่เป็นเชือกผูก หรือมีกระดุมด้านหน้า เพื่อง่ายต่อการสวมใส่ ถุงมือและถุงเท้า นอกจากจะช่วยให้ความอบอุ่นแล้วยังช่วยป้องกันเล็บของลูกน้อยไม่ให้ข่วนหน้าตัวเองอีกด้วย 3. ผ้าอ้อมสำเร็จรูป เลือกไซส์ให้พอเหมาะ ควรเลือกแบบที่มีเทปติดเพราะสะดวกต่อการสวมใส่ และสามารถปรับให้พอดีกับตัวของทารกได้ 4. แชมพูอาบน้ำ สระผม ฟองน้ำสำหรับอาบน้ำเด็กทารก บางโรงพยาบาลก็มีการสอนเทคนิคการอาบน้ำลูกน้อยให้กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ด้วย เพราะฉะนั้นอย่าลืมเตรียมอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำลูกน้อยไปด้วย 5. ทิชชู่เปียก […]